สำหรับใครที่กำลังเผชิญกับปัญหาบริเวณรอบดวงตา ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาใต้ตาคล้ำ ใต้ตาลึก ตาโหล หรือมีร่องใต้ตา ทำให้หน้าดูโทรม หน้าหมอง ดูไม่สดใส ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปหากทุกคนได้รู้จักกับหัตถการ “ฟิลเลอร์ใต้ตา” เพื่อเป็นการเรียกคืนความมั่นใจ และความสดใสให้กับใบหน้า ทั้งยังทำให้หน้าดูเด็กกว่าวัยอีกด้วย
เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน
แต่การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาควรเลือกฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดีที่สามารถตอบโจทย์ปัญหา และความต้องการของทุกคนได้เหมาะสมที่สุด บทความนี้มีคำตอบ
“ปัญหาร่องใต้ตา” เกิดจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น ส่วนมากจะเกิดการยุบตัวลงบริเวณ Tear Through ที่อยู่ใกล้ร่องใต้ตา และ Hollow Under Eyes บริเวณเบ้าตา ซึ่งอาจเกิดขึ้นแค่ส่วนเดียว หรือทั้งสองส่วน
นอกจากนี้ ปัญหาใต้ตาดำ ใต้ตาคล้ำ (Dark Circle) เกิดจากหลอดเลือดดำบริเวณตาขยายใหญ่ จึงมีเม็ดสีเมลานินมากขึ้น ทำให้ใต้ตาดำคล้ำ ไม่สดใส ดูเหนื่อยล้า และดูแก่กว่าวัย อย่างไรก็ตาม นอกจากสาเหตุที่ได้กล่าวไปแล้ว ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อบริเวณใต้ตา ไม่ว่าจะเป็น
หนึ่งในสาเหตุของรอยคล้ำใต้ตาโดยตรง เพราะเมื่ออายุมากขึ้นร่างกายจะผลิตคอลลาเจนได้น้อยลง อีกทั้งบริเวณรอบดวงตาเป็นบริเวณที่ผิวบอบบางกว่าจุดอื่น ซึ่งหากคอลลาเจนมีปริมาณน้อยลง จะทำให้เห็นเส้นเลือดใต้ผิวหนังได้ชัดเจนมากขึ้น
คนที่มีไลฟ์ไตล์ชอบนอนดึก นอนน้อย หรือพักผ่อนไม่เพียงพอ ถือเป็นอีกหนึ่งสาเหตุ ที่ทำให้บริเวณรอบดวงตาดูหมองคล้ำ เนื่องจาก เส้นเลือดเกิดการขยายตัว ทำให้เกิดรอยคล้ำใต้ตาได้
หากใครมีพฤติกรรมชอบขยี้ตา แนะนำให้ห้ามใจไว้ก่อน เพราะการขยี้ตาอาจทำให้ผิวบวม ผิวอักเสบ และเกิดการทำลายเส้นเลือดบริเวณรอบดวงตา จนกลายเป็นใต้ตาคล้ำถาวรได้
การระคายเคืองจากภูมิแพ้ หรือระคายเคืองบริเวณผิวรอบดวงตา จะไปกระตุ้นสารต้านฮิสตามีน (Histamine) ในร่างกาย ทำให้เส้นเลือดขยายตัว ส่งผลให้ผิวรอบดวงตาค่อนข้างบอบบาง เมื่อเส้นเลือดขยายตัวก็ยิ่งทำให้เห็นเป็นสีดำคล้ำได้ง่ายมากขึ้น
รอยคล้ำใต้ตา สามารถเกิดได้จากพันธุกรรม หากคนในครอบครัวมีปัญหาเรื่องรอยคล้ำใต้ตา ก็มีโอกาสเป็นไปได้ว่ารอยคล้ำ อาจมีสาเหตุมาจากพันธุกรรม
การดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ ทำให้ผิวแห้งขาดน้ำ ส่งผลให้เกิดรอยคล้ำบริเวณใต้ดวงตา รวมถึงการสูบบุหรี่ ตัวการร้ายที่ทำลายคอลลาเจน นอกจากทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยแล้ว ยังทำให้เกิดรอยคล้ำใต้ตาด้วยเช่นกัน
รังสี UV หรือรังสีอัลตราไวโอเลตจากแสงแดด สามารถทำลายผิวของเราได้ รวมไปถึงผิวบริเวณใต้ดวงตา หากไม่ทาครีมกันแดด อาจทำให้หน้าเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ และรอยคล้ำใต้ตาได้
การเลือกฟิลเลอร์ใต้ตา ควรปรึกษา และให้แพทย์ประเมินปัญหาใต้ตาก่อน จากนั้นจึงค่อยเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสม และสามารถแก้ปัญหาใต้ตาได้อย่างตรงจุด ซึ่งปัจจุบันมีฟิลเลอร์ตาให้เลือกหลายแบรนด์ หลายยี่ห้อ โดยแต่ละแบรนด์จะมีเนื้อสัมผัส และจุดเด่นต่างกัน ดังนี้
ฟิลเลอร์ Restylane จากประเทศสวีเดน เป็นสารเติมเต็มไฮยารูลอนิกแอซิด เนื้อฟิลเลอร์เม็ดละเอียด มีความยืดหยุ่นสูง ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว และสามารถปรับรูปทรงได้หลากหลาย
โดยฟิลเลอร์แบรนด์นี้เหมาะสำหรับการฉีดบริเวณใต้ตา ร่องแก้ม ริ้วรอย และปาก นอกจากนี้ ฟิลเลอร์ Restylane ยังมีให้เลือกหลายสูตร สามารถเลือกได้ตามความเหมาะสมกับบริเวณที่ฉีด เช่น
Restylane Vital: ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เกลี่ยง่าย ช่วยปรับความชุ่มชื้นผิวได้ดี เมื่อฉีดเข้าไปแล้วจะให้ความรู้สึกว่าหน้าสดใส ไม่หมองคล้ำ ส่วนมากนิยมนำมาฉีดแก้ไขปัญหาริ้วรอย หรือร่องลึก เหมาะสำหรับฉีดบริเวณใต้ตา และหน้าผาก สามารถอยู่ได้นาน 12 เดือน
ฟิลเลอร์ Juvederm จากประเทศอเมริกา ได้รับความนิยมจากแพทย์ทั่วโลกในการนำมาใช้ปรับรูปหน้า เป็นฟิลเลอร์กลุ่ม Hyaluronic Acid มีคุณภาพได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจาก US FDA และอย. มีให้เลือกหลายรุ่น เช่น
Juvederm Volite: ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด นิยมฉีดบริเวณใต้ตา หรือผิวชั้นตื้น ช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น เหมาะกับคนผิวบาง และผิวธรรมดา สามารถอยู่ได้นาน 8-12 เดือน
ไม่ว่าจะเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหน ควรเลือกแพทย์ และคลินิกที่เชื่อถือได้ มีมาตรฐาน สะอาด และปลอดภัย นอกจากนี้ สิ่งสำคัญ คือ แพทย์ที่ทำหัตถการต้องมีความชำนาญ ประสบการณ์ เพื่อให้ได้รูปหน้าที่เหมาะสม และเข้ากับรูปหน้า
รวมไปถึงการเลือกคลินิกที่สามารถตรวจสอบการใช้ฟิลเลอร์แท้ เพื่อความปลอดภัย ความสวยงาม และความคุ้มค่า หากต้องการสอบถาม หรือปรึกษาเพิ่มเติม สามารถนัดจองคิวที่ Doctor Win Clinic
Line : @doctorwin_clinic
Facebook Page : DoctorWin Clinic
Website : DoctorWin Clinic
Tel : 065-699-1695
DoctorWin Clinic ก่อตั้งโดย นายแพทย์เวชพิสิทธิ์ พนาวร (หมอวิน) อีกทั้งยังเป็นแพทย์ประจำคลินิกอีกด้วย
Line : @doctorwin_clinic
Facebook Page : DoctorWin Clinic
Website : DoctorWin Clinic
Tel : 065-699-1695
© Copyright 2024
powered by soarfast.co