จัดรูปปากให้สวยด้วย ฟิลเลอร์ปาก

บริการด้านความงาม

จัดรูปปากให้สวยด้วย ฟิลเลอร์ปาก

ฟิลเลอร์ปากช่วยแก้ปัญหาปากเล็ก ปากบาง ปากไม่เป็นทรง และยังช่วยในการทำให้ปากดูเต็ม ดูอวบอิ่มขึ้น

Juvederm 1 cc

25,000

Volux, Voluma, Volift

Restylane 1 cc

20,000

Neuramis

9,900

ฟิลเลอร์ปาก คืออะไร ?

‘ริมฝีปาก’ อีกหนึ่งเสน่ห์ที่ชวนให้หลงใหล นอกจากตาแล้วปากก็นับเป็นหนึ่งในอวัยวะที่เมื่อมองหน้าจะต้องสังเกตเป็นอันดับแรก ๆ และถือว่าเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่หลาย ๆ คนกังวล เนื่องจากริมฝีปากของคนเอเชียมีลักษณะค่อนข้างบาง ไม่เหมือนกับริมฝีปากทางฝั่งยุโรปที่ริมฝีปากจะหนา และเป็นทรงมากกว่า

 

นั่นทำให้หลายคนไม่มั่นใจ หรือรู้สึกว่าเวลาทาปาก ปากดูไม่สวย แต่ไม่ต้องกังวล เพราะว่าปัญหานี้สามารถจัดการได้ด้วย ฟิลเลอร์ปาก ตัวช่วยจัดรูปปากให้สวยเหมือนเสกได้

หากพูดถึงฟิลเลอร์ปาก หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าปากก็สามารถจัดรูปทรงให้สวยได้ ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ปากจะใช้สารเติมเต็มเหมือนที่ใช้ฉีดฟิลเลอร์ส่วนอื่น ๆ เติมเข้าไปบริเวณร่องริมฝีปาก ขอบปาก และเนื้อปาก  จากนั้นจะทำการปรับแต่งทรงให้สวยงามได้รูป และเมื่อทำการฉีดฟิลเลอร์เข้าไป จะทำให้มีความเต่งตึงขึ้น ซึ่งเจ้าสารเติมเต็มนี้ก็คือ สารที่ทำมาจากกรดไฮยาลูรอนิก หรือที่เรียกว่า HA (Hyaluronic acid) นั่นเอง

 

จึงทำให้ปากที่ฉีดมีความเป็นธรรมชาติ เนื่องจากเป็นสารที่สังเคราะห์มาเหมือนสารที่มีอยู่ในร่างกายของเรานั่นเอง ทำให้เมื่อฉีดเข้าไปจึงสามารถปรับเข้ากับร่างกายได้ดี ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาปากเล็ก ปากบาง ปากไม่เป็นทรง และยังช่วยในการทำให้ปากดูเต็ม ดูอวบอิ่มขึ้นได้อีกด้วย

ฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดี ?

ฟิลเลอร์ปากมีด้วยกันหลายยี่ห้อ ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็จะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป สำหรับใครที่กำลังลังเลอยู่ว่าจะเลือกฉีดยี่ห้อไหนดี Doctor Win Clinic จะมาแนะนำฟิลเลอร์ยอดฮิตตัวดัง ที่หลายๆ คนเลือกใช้ ได้แก่

  1. Juvederm เป็นฟิลเลอร์แบรนด์อเมริกา ที่ตัวเนื้อฟิลเลอร์มีจุดเด่นตรงที่มีความเป็นธรรมชาติสูง เนื้อฟิลเลอร์สามารถอุ้มน้ำได้ดี ทำให้เมื่อฉีดปากจะมีความฉ่ำ และความยืดหยุ่นสูง ทำให้ไม่รู้สึกว่าเป็นก้อน จึงทำให้ยี่ห้อนี้กลายมาเป็นยี่ห้อที่หลายคนเลือกใช้
  2. Restylane ฟิลเลอร์แบรนด์จากสวีเดน เป็นฟิลเลอร์ที่เนื้อเจลค่อนข้างละเอียด เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในดวงใจของใครหลายคน เมื่อฉีดจะทำให้ปากดูอิ่มฟู ดูชุ่มชื้น และจัดทรงได้ดี เนื่องจากเนื้อฟิลเลอร์สามารถคงตัวได้ดี

ซึ่งในแต่ละยี่ห้อก็จะมีรุ่นที่แตกต่างกัน ซึ่งแต่ละรุ่นก็จะต่างกันที่เนื้อสัมผัส บางตัวเนื้อสัมผัสจะนิ่มกว่า แต่อาจจะอยู่ทรงน้อยกว่า นอกจากนั้นก็จะแตกต่างกันตามระยะเวลาในการใช้งาน

ซึ่งส่วนใหญ่ฟิลเลอร์ปากจะมีความนิ่ม และฟู ในการเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ริมฝีปาก และทำให้ปากดูฟู ดูอวบอิ่ม

 

ระยะเวลาจะอยู่ได้ตั้งแต่ประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ และพฤติกรรมการดูแลรักษา นอกจากยี่ห้อเหล่านี้แล้ว ยังมียี่ห้ออื่นๆ ที่ดีไม่แพ้กัน ซึ่งคุณสามารถเลือกได้ตามความชอบ ตามราคาที่พึงพอใจ

ฉีดปากเจ็บไหม ?

หลายคนเกิดความกังวลกลัวจะเจ็บ เพราะคิดว่าบริเวณปากเป็นบริเวณที่เปราะบาง แต่เพื่อความสวยหลาย ๆ คนเลยเลือกที่จะฉีดฟิลเลอร์ปากกัน ในฟิลเลอร์ปากบางยี่ห้อจะมีส่วนผสมของยาชาอยู่ ทำให้รู้สึกเจ็บเพียงนิด ๆ เท่านั้น

 

สำหรับบางรุ่นที่ไม่ผสมยาชา ก่อนทำการฉีดแพทย์จะทำการแปะยาชา หรือฉีดยาชาเข้าไปบริเวณที่จะฉีดก่อน ทำให้ไม่รู้สึกเจ็บมากนัก แต่ถ้าหากยาชาหมดฤทธิ์อาจทำให้รู้สึกเจ็บนิด ๆ หรือรู้สึกตึง ๆ บริเวณที่ฉีดได้ แต่จะสามารถหายเองภายใน 2 สัปดาห์

โดยภายใน 1-2 วันแรกจะมีความบวมอยู่ แต่ประมาณ 2 สัปดาห์ จะค่อย ๆ ดีขึ้น และได้ทรงมากยิ่งขึ้น

 

ฉีดปาก อยู่ได้กี่เดือน ?

ระยะเวลาในการใช้งานฟิลเลอร์ ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบ และกระบวนการผลิตของยี่ห้อนั้น ๆ ส่วนใหญ่ระยะเวลาในการฉีดจะอยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน เป็นส่วนใหญ่ แต่ก็มีบางยี่ห้อที่อยู่ได้นานกว่านั้น ซึ่งสามารถอยู่ได้นานถึงประมาณ 18  เดือนเลยทีเดียว โดยยี่ห้อที่สามารถอยู่ได้นานได้แก่

  1. Juvederm จะอยู่ได้ตั้งแต่ประมาณ 8-12 เดือน และจะมีรุ่นที่สามารถอยู่ได้ถึงประมาณ 18 เดือน ได้แก่รุ่น Juvederm Voluma ที่เนื้อเจลค่อนข้างมีความคงรูป และมีความอวบอิ่มสูง
  2. Restylane จะอยู่ได้ตั้งแต่ประมาณ 6-12 เดือน แต่ก็จะมีบางรุ่นอย่างรุ่นของ Restylane Volyme ที่มีเนื้อเจลค่อนข้างคงตัว มีความเป็นธรรมชาติ ตัวนี้สามารถอยู่ได้นานถึงประมาณ 18 เดือน

Belotero จะอยู่ได้ตั้งแต่ประมาณ 12-18 เดือน เป็นยี่ห้อที่เนื้อค่อนข้างแน่น เป็นทรง ทำให้ปากอวบอิ่มได้ดี

Juvederm

25,000 ฿

ต่อเข็ม

ฟิลเลอร์แบรนด์อเมริกา ซึ่งถือได้ว่าเป็นฟิลเลอร์ยอดฮิตที่มีความยืดหยุ่นสูง เนื้อเจลนิ่ม ทำให้เวลาที่ฉีดออกมา จะรู้สึกเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งจนเกินไป
Restylane

20,000 ฿

ต่อเข็ม

ฟิลเลอร์แบรนด์จากสวีเดน เป็นอีกตัวฮิตที่ได้รับความนิยม เนื่องจากเป็นฟิลเลอร์ประเภทเนื้อผสม ที่ทำให้สามารถขึ้นรูปสวย มีความคงทน สามารถอยู่ได้นาน 6 – 12 เดือน

รีวิวฉีดปากสายฝอ

ฉีดฟิลเลอร์ปาก ราคาเท่าไหร่ ?

ราคาฟิลเลอร์ใต้ตาขึ้นอยู่กับแบรนด์ที่เลือกใช้ ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็จะมีส่วนผสม และกรรมวิธีการผลิตเฉพาะที่แตกต่างกัน และขึ้นอยู่กับระยะเวลา บางตัวมีราคาแพงกว่าแต่อยู่ได้นานกว่า เป็นต้น

 

ส่วนใหญ่ราคาของฟิลเลอร์จะคิดเป็นราคาต่อ 1 cc ซึ่งส่วนมากจะฉีดกันประมาณ 1-2 cc โดยราคาจะเริ่มต้นประมาณ 20,000 – 25,000 บาท* ขึ้นอยู่กับแบรนด์ และประเภทของฟิลเลอร์ที่ใช้ บางยี่ห้อจะมีหลายรุ่นให้เลือก ซึ่งแต่ละรุ่นก็จะเหมาะกับปัญหาที่แตกต่างกัน หรือมีระยะเวลาในการใช้ที่ต่างกัน

ฉีดฟิลเลอร์ปาก ทรงไหนดี ?

ฟิลเลอร์ปากสามารถจัดทรงได้หลากหลาย บางคนอยากเสริมให้บางดูหนาขึ้น บางคนอยากทำให้ปากดูฟู ดูอิ่มน้ำ นอกจากความหนา และความอวบอิ่มแล้ว ยังสามารถฉีดบริเวณขอบปาก มุมปากให้ยาก หรือจัดรูปได้ตามต้องการ ซึ่งทรงที่ได้รับความนิยมจะมีด้วยกัน 2 ทรงหลัก ๆ ได้แก่

 

  1. ทรงเกาหลี เป็นทรงที่ได้รับความนิยมมาก มีลักษณะเด่นที่บริเวณช่วงกลางของริมฝีปากจะหนากว่าบริเวณด้านข้าง (Cherry Lips) โดยลักษณะของปากแนวนี้ทำให้รู้สึกถึงความอวบอิ่ม ริมฝีปากบนจะบางคล้ายผลเชอร์รี่ และทรงมีความเป็นกระจับ คนจะนิยมทรงนี้ในเวลาที่ต้องการทาลิปไล่สีบริเวณด้านในจะทำให้ปากดูมีทรง และมีมิติมากขึ้น หรือเวลาทาลิปกลอสปากจะดูฉ่ำเหมือนสาวเกาหลี
  2. ทรงสายฝอ เป็นทรงที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน โดยทรงสายฝอจะต่างจากทรงเกาหลีตรงที่ จะเน้นความหนามากกว่า โดยจะเน้นให้ปากล่างหนากว่าปากบน หรือจะฉีดให้หนา ทั้งปากบนปากล่างก็ได้แล้วแต่ความชอบ โดยจะทำให้ปากดูเจ่อ ๆ เป็นทรงที่ปากจะดูหนา ดูฟูขึ้น เวลาทาปากจะทำให้มีพื้นที่ทาลิปเพิ่มขึ้น ให้ลุคที่ดูเซ็กซี่ ทำให้หลายคนนิยมทรงนี้ไม่น้อย

ปากกระจับ  vs ปากสายฝอ

 

ปากกระจับ เป็นการเสริมบริเวณริมฝีปากให้ได้รูปตามกฎสัดส่วนทอง และเป็นทรงมากยิ่งขึ้น โดยปากกระจับจะมีลักษณะเป็นทรงคล้ายปีกนก เนื่องจากบริเวณมุมปากจะมีความยกขึ้น ทำให้ปากได้รูป โดยบริเวณร่องริมฝีปากบนจะเหมือนกับตัว M และมุมปากจะไม่ทิ่มลง ดูเป็นทรงมากขึ้น นิยมนำไปใช้ร่วมกับทั้งทรงเกาหลี และทรงสายฝอในการเพิ่มมิติให้กับใบหน้า ทำให้เวลาที่ทาลิปยิ่งสวย 

หลายคนมักจะเข้าใจผิดระหว่างปากกระจับ และปากสายฝอ ซึ่งทั้งสองแบบมีความต่างกันตรงที่ ปากสายฝอจะดูเต็ม มีความหนามากกว่า และทรงจะไม่ได้เป็นกระจับเท่ากับปากแบบกระจับ แต่บางคลินิกก็อาจจะเอาเทคนิค และทรงปากทั้งสองแบบมาประยุกต์ร่วมกันได้

 

รีวิว ฉีดปากสายฝอ แบบธรรมชาติ เพิ่มความมั่นใจในสไตล์คุณ

 

อย่างที่ Doctor Win Clinic ที่จะออกแบบทรงปาก ให้เหมาะสมกับตัวของคุณ ด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ นำทีมโดย นพ.เวชพิสิทธิ์ พนาวร หรือ คุณหมอวิน ผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้ฟิลเลอร์ โบท็อกซ์  ผู้ดำรงตำแหน่ง “อาจารย์แพทย์สอนฉีดฟิลเลอร์” ของบริษัท Allergan และรางวัลการันตียอดการใช้ฟิลเลอร์สูงที่สุดในประเทศ

Doctor Win Clinic ดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้ฟิลเลอร์ โบท็อกซ์  ปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนกว่าวัยแบบธรรมชาติ ด้วยประสบการณ์ปรับรูปหน้าไม่ต่ำกว่า 5,000 เคส

  • เป็นคลินิกที่เหล่าคนดัง และ Celebrity ไว้วางใจด้วยรางวัล การันตียอดการใช้ฟิลเลอร์สูงที่สุดในประเทศ

อยากสวยและปลอดภัยเลือก DoctorWin Clinic !

 Line : @doctorwin_clinic

Facebook Page : DoctorWin Clinic

Website : DoctorWin Clinic

Tel : 065-699-1695

เคล็ดลับความสวยจาก Dotor Win Clinic

เคล็ดลับความสวย

เปลี่ยนหน้าโทรม จบปัญหาใต้ตาคล้ำด้วย ฟิลเลอร์ใต้ตา

สำหรับใครที่กำลังเผชิญกับปัญหาบริเวณรอบดวงตา ไม่ว่าจะเป […]

READ MORE
รวมรีวิว

รีวิวฉีดฟิลเลอร์คาง ช่วยเพิ่มความมั่นใจ หันมุมไหนก็เป๊ะทุกองศา

สวัสดีเพื่อน ๆ ทุกคนวันนี้เราอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ “รี […]

READ MORE
เคล็ดลับความสวย

ปากอวบอิ่ม ทรงปากสวยด้วยการ ฉีดฟิลเลอร์ปาก ทั้งสายฝอ สายเกา

หนึ่งในเทรนด์ความสวยความงามที่มาแรงแซงโค้งทุกหัตถการ เช […]

READ MORE
รวมรีวิว

รีวิว ฟิลเลอร์ปาก สายฝอธรรมชาติ เพิ่มความมั่นใจในสไตล์คุณ

สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เราจะมารีวิวการไปฉีดฟิลเลอร์ปากที่ […]

READ MORE