บริการด้านความงาม

Botox ตัวช่วยสู่ความสวย ของคนยุคใหม่

โบท็อกซ์นับเป็นหนึ่งในหัตถการที่เห็นผลได้อย่างรวดเร็ว โดยมักจะเห็นผลในช่วง 2 สัปดาห์ หลังจากฉีดโบท็อกซ์ไปแล้ว ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

Nabota 50 Unit

6,900

Allergan 50 Unit

15,000

Allergan 100 Unit

25,000

Botox คืออะไร ?

ใบหน้าที่สวยและได้รูป จะทำให้คุณรู้สึกมั่นใจในตัวเอง และสนุกกับการใช้ชีวิตมากยิ่งขึ้น ซึ่งตัวช่วยสำคัญที่หลายคนเลือกใช้ในการปรับรูปหน้า ลดริ้วรอย เพื่อคงความสวยให้ยาวนาน และช่วยโกงอายุ นั่นก็คือ Botox (โบท็อกซ์) นั่นเอง

 

ซึ่งนิยมในการนำมาฉีดตามจุดต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาบริเวณนั้นๆ ให้คุณรู้สึกมั่นใจในใบหน้าของตัวเองมากยิ่งขึ้นโดยที่ไม่ต้องผ่าตัด วันนี้ DoctorWin Clinic จะมาแนะนำตัวช่วยให้แก่สาวๆ ที่กำลังกังวลเรื่องใบหน้าไม่ได้รูป ให้เข้าใจและเลือกอย่างปลอดภัยก่อนทำสวย

 

หากพูดถึงโบท็อกซ์ หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วโบท็อกซ์ คือ สารที่สกัดขึ้นจากแบคทีเรีย มีส่วนช่วยในการปรับลดขนาดของกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นแบคทีเรียสายพันธุ์ 6 เฉพาะที่ชื่อว่า Clostridium Botulinum ทำหน้าที่ออกฤทธิ์กับระบบประสาท

 

ซึ่งนิยมนำมาใช้เพื่อปรับรูปหน้า เนื่องจากเมื่อฉีดโบท็อกซ์เข้าไปแล้ว จะทำให้บริเวณที่ฉีดนั้นคลายตัว ทำให้รูปหน้าเปลี่ยนนั่นเอง โดยสารโบท็อกซ์จะเข้าไปลดการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อชั่วขณะ ตามระยะเวลาของฉีดของโบท็อกซ์ที่ใช้

 

แต่ก็ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีดและฝีมือของแพทย์ที่ทำหัตถการด้วย หากโบท็อกซ์หมดฤทธิ์กล้ามเนื้อจะค่อยๆ กลับสู่สภาพเดิม จึงทำให้โบท็อกซ์กลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมที่ใครๆ ก็เลือกใช้

โบท็อก ช่วยอะไรได้บ้าง

 

โบท็อก ช่วยอะไรได้บ้าง ?

หลักๆ แล้วคนจะเข้าใจว่าโบท็อกซ์ช่วยแค่ปรับรูปหน้า ซึ่งจริงๆ แล้วโบท็อกซ์จะช่วยเรื่องของการลดการทำงานของกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ส่งผลทำให้บริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์เข้าไปมีขนาดเล็กลง นิยมฉีดตามกรอบหน้า บริเวณกราม ปีกจมูก เพื่อปรับขนาดของใบหน้าให้เล็กและกระชับมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังสามารถนำไปฉีดเพื่อปรับลดขนาดกับส่วนอื่นๆ ได้อีกด้วย เช่น บริเวณแขน น่อง รักแร้ เป็นต้น

 

นอกจากการปรับขนาดแล้ว โบท็อกซ์ยังช่วยในเรื่องของการลดริ้วรอย ซึ่งเป็นผลมาจากกล้ามเนื้อที่หดตัวจนเรียบขึ้น นิยมฉีดบริเวณหน้าผาก หางตา ระหว่างคิ้ว และใช้ในการยกกระชับรอยย่นบนใบหน้า

อีกทั้งยังช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณต่อมเหงื่อ ส่งผลให้เหงื่อบริเวณนั้นๆ ออกได้น้อยลง หากใครที่มีกลิ่นกายแรง เนื่องจากเหงื่อออกเยอะก็สามารถช่วยได้ นอกจากนั้นทางการแพทย์ ยังสามารถใช้โบท็อกซ์ในการรักษาโรคบางโรค อย่าง โรคไมเกรน อาการตากระตุก ได้อีกด้วย

 

โบท็อกซ์กี่วันเห็นผล ?

โบท็อกซ์นับเป็นหนึ่งในหัตถการที่เห็นผลได้อย่างรวดเร็ว โดยมักจะเห็นผลในช่วง 2 สัปดาห์ หลังจากฉีดโบท็อกซ์ไปแล้ว เพราะต้องรอโบท็อกซ์ที่ฉีดเข้าไปบริเวณกล้ามเนื้อออกฤทธิ์ ซึ่งจะไม่เห็นผลได้ทันทีเหมือนฟิลเลอร์ที่เป็นสารเติมเต็ม

 

โดยจะเห็นผลได้อย่างชัดเจนประมาณ 1 เดือนหลังจากฉีดไปแล้วขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แต่สำหรับโบท็อกซ์ที่ฉีดเพื่อลดริ้วรอย จะเป็นการฉีดบริเวณชั้นผิวตื้นๆ ซึ่งเห็นผลได้เร็วกว่าการฉีดเพื่อปรับรูปหน้า ที่ฉีดเข้าบริเวณมัดกล้ามเนื้อโดยตรง

โบท็อกซ์อยู่ได้กี่เดือน ?

ระยะเวลาในการออกฤทธิ์ของโบท็อกซ์จะขึ้นอยู่กับยี่ห้อ ส่วนประกอบ และตำแหน่งในการฉีดโบท็อกซ์นั้นๆ โดยทั่วไปโบท็อกซ์จะออกฤทธิ์ประมาณ 4 – 8 เดือน ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ทั้งในเรื่องของพฤติกรรมการปฏิบัติตัวหลังฉีด และสภาพร่างกาย และอายุ โดยส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของโบท็อกซ์นั้นๆ โดยจะมีแบรนด์ยอดนิยม ดังนี้

 

  • โบท็อกซ์แบรนด์เกาหลี เช่น Nabota Aestox จะอยู่ได้ประมาณ 3 – 6 เดือน
  • โบท็อกซ์แบรนด์อเมริกา เช่น Allergan จะอยู่ได้ประมาณ 3 –  8 เดือน
  • โบท็อกซ์แบรนด์เยอรมัน เช่น Xeomin จะอยู่ได้ประมาณ 3 – 6 เดือน

 

ซึ่งโบท็อกซ์ของแต่ละยี่ห้อ จะผลิตในประเทศที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับชนิดของยาที่ใช้ กระบวนการผลิต ปริมาณยา ขนาดโมเลกุล และอื่นๆ

 

ฉีดโบท็อกซ์อันตรายไหม ?

การฉีดโบท็อกซ์เป็นหนึ่งในหัตถการทางการแพทย์อย่างหนึ่ง ซึ่งฉีดเพื่อลดการทำงานของกล้ามเนื้อในร่างกายชั่วคราวจึงไม่อันตราย หากใช้โบท็อกซ์ที่ได้คุณภาพ และเป็นโบท็อกซ์แท้ผ่าน อย. แต่ก็ต้องระวังเรื่องของโบท็อกซ์ที่ใช้ด้วย เพราะหากใช้โบท็อกซ์ปลอมจะส่งผลอันตรายต่อร่างกายได้ และอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงตามมาได้อีกด้วย 

 

โดยปกติแล้วโบท็อกซ์จะไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย เพราะจะสลายจนหมดตามระยะเวลา แต่หากเลือกใช้ของปลอมอาจทำให้เกิดการติดเชื้อ หรือส่งผลต่อกล้ามเนื้อ อาจทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงได้ และถ้าฉีดผิดพลาด หรือไม่ได้ดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อาจทำให้เกิดอาการใบหน้าผิดรูปได้ ดังนั้นต้องเลือกคลินิกที่ดีมีคุณภาพ และแพทย์มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน

Botox ยี่ห้อไหนดี ?

โบท็อกซ์แต่ละยี่ห้อก็จะมีรูปแบบของส่วนประกอบที่แตกต่างกัน จึงเกิดความแตกต่างในเรื่องของระยะเวลาของการออกฤทธิ์ โดยแต่ละยี่ห้อมีความแตกต่างกัน เช่น

 

  • โบท็อกซ์เกาหลี เช่น Nabota เป็นยี่ห้อยอดนิยมที่เห็นผลได้ไว มีให้เลือกหลายรุ่นสำหรับฉีดเพื่อปรับรูปหน้า 
  • โบท็อกซ์อเมริกา เช่น Allergan เป็นยี่ห้อตัวฮิตที่อยู่ได้นาน และมีผลข้างเคียงหลังฉีดน้อย ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ
  • โบท็อกซ์เยอรมัน เช่น Xeomin เป็นยี่ห้อที่ฉีดแล้วเป็นธรรมชาติ ออกฤทธิ์ได้ไว

 

แต่ละยี่ห้อจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ซึ่งทุกยี่ห้อ ทุกสัญชาติจะให้ผลในเรื่องของการปรับรูปหน้า การลดสัดส่วน การลดริ้วรอยที่เหมือนกัน โดยจะต่างกันตามคุณสมบัติเฉพาะตัว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจ ความชอบ และราคาที่สะดวก ของแต่ละบุคคล

Nabota

6,900 ฿

ต่อเข็ม

โบท็อกซ์เกาหลี เช่น Nabota เป็นยี่ห้อยอดนิยมที่เห็นผลได้ไว มีให้เลือกหลายรุ่นสำหรับฉีดเพื่อปรับรูปหน้า
Allergan

15,000 ฿

ต่อเข็ม

โบท็อกซ์อเมริกา เช่น Allergan เป็นยี่ห้อตัวฮิตที่อยู่ได้นาน และมีผลข้างเคียงหลังฉีดน้อย ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ

รีวิว ฉีดโบท็อกซ์

โบท็อกซ์ราคาเท่าไหร่ ?

ราคาของแต่ละยี่ห้อจะมีให้เลือกฉีดหลายราคา โดยแต่ละราคาขึ้นอยู่กับยี่ห้อ และรุ่นที่ใช้งาน โดยโบท็อกซ์ยอดฮิตที่นิยมใช้ ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 10,000 บาท ขึ้นอยู่กับแต่ละคลินิก ทำให้มีราคาแตกต่างกันไปตามโปรโมชันของคลินิกนั้น ๆ ส่วนยี่ห้ออื่นๆ นอกเหนือจากรุ่นยอดนิยม บางรุ่นก็เริ่มต้นประมาณ 8,000 บาทก็มี แต่ต้องตรวจสอบ และศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนเลือกฉีดเสมอ

 

  • โบท็อกซ์เกาหลี ราคาอยู่ที่ประมาณ 7,000 – 10,000* บาท (ขึ้นอยู่กับรุ่น โปรโมชัน และจำนวน unit) 
  • โบท็อกซ์อเมริกา ราคาอยู่ที่ประมาณ 12,000 – 19,000* บาท (ขึ้นอยู่กับรุ่น โปรโมชัน และจำนวน unit) 
  • โบท็อกซ์เยอรมัน ราคาอยู่ที่ประมาณ 15,000 – 18,000* บาท (ขึ้นอยู่กับรุ่น โปรโมชัน และจำนวน unit) 

 

(ราคาขึ้นอยู่กับแต่ละคลินิกและโปรโมชันในช่วงเวลานั้นๆ)

โบท็อกซ์รีวิว ดีจริงหรือไม่ ?

โบท็อกซ์ เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการปรับรูปหน้าที่เห็นผลได้ชัด และไม่ต้องพักฟื้นเหมือนการผ่าตัด ซึ่งนิยมฉีดเพื่อทำให้ใบหน้าเล็ก โดยจะฉีดบริเวณกรอบหน้า กราม เพื่อลิฟท์กรอบหน้าให้ดูชัดเจนยิ่งขึ้น ทำให้เวลาแต่งหน้ารู้สึกหน้าคมมากขึ้นโดยที่ไม่ต้องเฉดดิ้งและคอนทัวร์หน้าให้เหนื่อย

โดยประมาณ 2 – 4 สัปดาห์หลังฉีด รู้สึกได้เลยว่าหน้าเป๊ะขึ้น กรอบหน้ามา กรามเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด ส่วนเรื่องของริ้วรอยบริเวณหน้าผาก ซึ่งเกิดจากอายุที่เพิ่มขึ้น ความเครียด ก็ดูจางลงอย่างชัดเจน ขึ้นอยู่กับปริมาณของยาที่ใช้ โดยควรให้แพทย์ช่วยประเมินให้เหมาะสมกับใบหน้าด้วย และหลังจากฉีด หากดูแลตัวเองให้ดี และทำตามข้อแนะนำของแพทย์ ยิ่งทำให้เห็นผลลัพธ์หลังฉีดได้ดีมากยิ่งขึ้น แต่ก็ควรเลือกคลินิกที่มีมาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง

อย่างที่ DoctorWin Clinic มีเทคนิค และรางวัลการันตีมากมาย ด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่าง นพ.เวชพิสิทธิ์ พนาวร หรือ คุณหมอวิน ผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้ฟิลเลอร์ โบท็อกซ์  ผู้ดำรงตำแหน่ง “อาจารย์แพทย์สอนฉีดฟิลเลอร์” ของบริษัท Allergan และรางวัลการันตียอดการใช้ฟิลเลอร์สูงที่สุดในประเทศ

DoctorWin Clinic ดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้ฟิลเลอร์ โบท็อกซ์  ปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนกว่าวัยแบบธรรมชาติ ด้วยประสบการณ์ปรับรูปหน้าไม่ต่ำกว่า 5,000 เคส

  • เป็นคลินิกที่เหล่าคนดัง และ Celebrity ไว้วางใจด้วยรางวัล การันตียอดการใช้ฟิลเลอร์สูงที่สุดในประเทศ

อยากสวยและปลอดภัยเลือก DoctorWin Clinic !

 Line : @doctorwin_clinic

Facebook Page : DoctorWin Clinic

Website : DoctorWin Clinic

Tel : 065-699-1695

เคล็ดลับความสวยจาก Dotor Win Clinic

เปลี่ยนหน้าโทรม จบปัญหาใต้ตาคล้ำด้วย ฟิลเลอร์ใต้ตา

สำหรับใครที่กำลังเผชิญกับปัญหาบริเวณรอบดวงตา ไม่ว่าจะเป […]

READ MORE

รีวิวฉีดฟิลเลอร์คาง ช่วยเพิ่มความมั่นใจ ในทุกมุม

สวัสดีเพื่อน ๆ ทุกคนวันนี้เราอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ “รี […]

READ MORE

ปากอวบอิ่ม ทรงปากสวยด้วยการ ฉีดฟิลเลอร์ปาก ทั้งสายฝอ สายเกา

หนึ่งในเทรนด์ความสวยความงามที่มาแรงแซงโค้งทุกหัตถการ เช […]

READ MORE

รีวิว ฟิลเลอร์ปาก สายฝอธรรมชาติ เพิ่มความมั่นใจในสไตล์คุณ

สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เราจะมารีวิวการไปฉีดฟิลเลอร์ปากที่ […]

READ MORE